สลด! ผู้เฒ่าวัย 102 ปี ยอมตายดีกว่าย้ายไปจากถิ่นฐานหลังทางการประกาศขยายเขตพื้นที่เสี่ยงภัยกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ออกไปอีกจาก 20 กม. เป็น 30 กม. คาดบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงภัย ด้านทางการออกระดมหาผู้สูญหายนับพันชีวิตในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าฯอีกระลอก พร้อมประกาศ 13 เมืองในจังหวัดฟูกูชิมะ ห้ามขาย “เห็ดชิตาเกะ” อันเลื่องชื่อหลังตรวจพบปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีระดับสูงขณะเดียวกันวิกฤติโรงไฟฟ้าฯส่อรุนแรงขึ้น เมื่อพนักงานเทปโก้แฉสถานการณ์ในโรงไฟฟ้าฯเลวร้ายกว่าที่คิดบางรายถึงกับตัดสินใจสละชีพไม่สนกัมมันตภาพรังสี ขอเพียงยุติปัญหาให้ได้ ด้านอนามัยโลกเล็งติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่นไปอีก 20 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าวิกฤตการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ในจังหวัดฟูกูชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่าเจ้าหน้าที่บริษัทเทปโก้ผู้ดูแลโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ เริ่มไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเอง และพยายามช่วยกันเร่งคลี่คลายสถานการณ์ที่มีอนาคตของชาติเป็นเดิมพัน โดยพนักงานไม่ระบุนามหลายราย เปิดเผยว่า พวกตนไม่คิดถึงสุขภาพอีกต่อไป มีบางรายทิ้งเครื่องวัดปริมาณกัมมันตภาพ รังสีในร่างกายไว้ที่บ้าน เพื่อที่เจ้านายจะได้ไม่รู้ว่าได้รับรังสีมรณะในปริมาณมากเท่าใด
ทั้งนี้ นายฮิโรยูกิ โคโนะ วิศวกรโรงไฟฟ้าฯ กล่าวว่า ประมาณ 3 วันก่อน หัวหน้าได้โทรศัพท์หาลูกน้องทุกคนบอกว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่สื่อมวลชนรายงานและเกินกว่าที่จะจินตนาการ และถามว่ายังคิดจะทำอยู่ไหม แต่พวกตนไม่ตอบอะไร และมาทำงานตามเดิม เท่าที่ทราบ ไม่มีใครคิดเรื่องรางวัลหรือค่าตอบแทนอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน โฆษกบริษัทเทปโก้ออกแถลงการณ์ว่า ทีมงานอยู่ระหว่างหาทางยุติสถานการณ์ที่อาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 อย่างสมบูรณ์ ด้วยการนำแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่เสียหายออกจากบ่อหล่อเย็นไปเก็บปิดผนึกถาวร แต่มิได้เปิดเผยรายละเอียดวิธีการ ทั้งนี้ แท่งเชื้อเพลิงที่อาคารหมายเลข 4 อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง มิได้ทำงานอยู่ในเตาปฏิกรณ์ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทำให้ปริมาณกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมาน้อยกว่าอาคารหมายเลข 1 ถึง 3
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ภัยพิบัตินั้น เกิดเหตุสลดที่หมู่บ้านอิตาเตะ จังหวัดฟูกูชิมะ เมื่อชายชรา วัย 102 ปี ฆ่าตัวตายภายในบ้านพัก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุมาจากการที่รัฐบาลประกาศขยายพื้นที่อพยพหนีกัมมันตภาพรังสีรอบๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ จากเดิมภายในรัศมี 20 กิโล เมตร เป็น 30 กิโลเมตร ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนหน้า และหมู่บ้านอิตาเตะ ก็เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ต้องอพยพคนออก ทำให้ชายชราคนดังกล่าว ซึ่งข่าวระบุว่าเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในหมู่บ้าน เกิดอาการซึมเศร้า ไม่อยากต้องจากบ้านที่อยู่อาศัยกับครอบครัวมานาน แต่เจ้าหน้าที่มิได้ระบุว่าชายชราผู้นี้ฆ่าตัวตายด้วยวิธีใด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดฟูกูชิมะ ระดมกำลังกว่า 300 นาย ปฏิบัติการค้นหาศพผู้เสียชีวิตอีกครั้งในพื้นที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประมาณ 20 กิโลเมตร ที่ยังคงสูญหายอย่างน้อย 1000 คน แต่ยังไม่สามารถประมาณการได้ว่าจะพบศพมากน้อยเพียงใด
สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานด้วยว่า ผู้อพยพจากจังหวัดฟูกูชิมะที่ไปพักอาศัยในจังหวัดอื่นๆ ถูกชาวบ้านเลือกปฏิบัติและไม่กล้าเข้าใกล้เนื่องจากเกรงว่าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี
แทงบอลออนไลน์ ฟรีเครดิต ไม่ต้องฝาก
- สมัคร แทงบอล ราคาน้ำดีที่สุด
- เป็นเว็บของ UFABET มั่นคง ปลอดภัยชัวร์
|